Lecture excel2007 — Presentation Transcript
· 1. Microsoft Excel 2007
· 2. โปรแกรม Microsoft Excel 2007 โปรแกรมที่ใช้สำหรับกรอกข้อความ ตัวเลข และรูปภาพ ลงในช่องตารางที่ เรียกว่า “ เวิร์กชีส ” ( Worksheet ) ซึ่งมีจำนวนแถวและคอลัมน์มากมาย เหมาะกับงานทางด้านการคำนวณต่างๆ หรือสร้างกราฟแสดงผล กราฟ กระดาษทำการ (Worksheet)
· 3. ประโยชน์ของ Microsoft Excel สามารถคำนวณข้อมูลในตารางได้อย่างแม่นยำ สามารถสร้างกราฟแบบต่างๆ ได้ สามารถ ตกแต่ง ตารางข้อมูลด้วยสีสัน และรูปภาพ สามารถเรียงลำดับข้อมูลตามตัวอักษรหรือตัวเลขได้ มีระบบจัดการข้อมูลแบบอัตโนมัติหลายอย่าง สามารถแปลงข้อมูลเป็นเว็บเพจ
· 4. การเรียกใช้โปรแกรม Microsoft Excel 1. คลิกปุ่ม Start 2. เลือกรายการ Programs 3. คลิกที่โปรแกรม Microsoft office 3. คลิกที่โปรแกรม Microsoft excel 2007
· 5. ส่วนประกอบของ Microsoft Excel 2007
· 6. แถบชื่อโปรแกรม (Title Bar) แสดงชื่อของโปรแกรม และชื่อของเอกสารที่กำลังใช้งานอยู่ ถ้าหากเป็นเอกสารที่ยังไม่ได้บันทึก ชื่อของเอกสารจะเป็น สมุดงาน 1
· 7. แถบคำสั่ง (Menu Bar) เป็นที่รวบรวมคำสั่งการใช้งานของโปรแกรม Microsoft Excel ทั้งหมด
· 8. แท็บหน้าแรก แท็บแทรก
· 9. แท็บเค้าโครงหน้ากระดาษ แท็บสูตร
· 10. แท็บข้อมูล แท็บตรวจทาน
· 11. แท็บมุมมอง
· 12. การสร้างเอกสารใหม่
· 13. ส่วนประกอบของกระดาษทำการ (Worksheet ) คอลัมน์ ( Column) แถว (Row) ป้ายชื่อของกระดาษทำการ ( sheet tab) ตัวชี้ตำแหน่งเซลล์ ( Cell Pointer) เป็นพื้นที่สำหรับการทำงาน เปรียบเสมือนกับกระดาษที่ใช้คิดเลข คำนวณ และกรอกข้อมูล
· 14. คอลัมน์ ( Column) คือ ช่องข้อมูลที่เรียงอยู่ใน แนวตั้ง มีทั้งหมด 256 คอลัมน์ แถว ( Row) คือ ช่องข้อมูลที่เรียงอยู่ใน แนวนอน มีทั้งหมด 65,536 แถว ป้ายชื่อของกระดาษทำการ ( sheet tab) ใช้แสดงชื่อของชีทที่กำลังใช้งานอยู่
· 15. การเลื่อนตัวชี้ตำแหน่งเซลล์ เลื่อนตามทิศครั้งละเซลล์ เลื่อนทีละหน้าจอ เลื่อนไปตำแหน่ง A1 ตัวชี้ตำแหน่งเซลล์ พิมพ์ตำแหน่งในช่องนี้ แล้วคลิกปุ่ม OK
· 16. การกำหนดช่วงข้อมูล (RANGE) 1. นำเมาส์คลิกในเซลล์แรก 2. กดปุ่มเมาส์ค้างไว้ แล้วลากไป ตำแหน่งเซลล์สุดท้ายของช่วง ช่วงข้อมูลแนวนอน ช่วงข้อมูลแนวตั้ง ทิศทางในการลากเมาส์
· 17. การกำหนดช่วงข้อมูล (RANGE) คลิกที่ตัวอักษร เพื่อเลือกทั้งคอมลัมน์ คลิกที่ตัวเลข เพื่อเลือกทั้งแถว
· 18. ชนิดของข้อมูล ค่าคงที่ (Constant) หมายถึง ข้อมูลที่เราใส่ลงในเซลล์โดยตรง โดยอาจเป็นตัวเลข , วัน - เวลา , หรือข้อความ โดยข้อมูลนี้จะไม่เปลี่ยนแปรค่า เว้นเสียแต่ว่าเราได้ทำการแก้ไขเอง สูตรการคำนวณ (Formula) หมายถึง นิพจน์ที่อาจเกิดจากค่าคงที่ ชื่อเซลล์ ฟังก์ชัน หรือเครื่องหมายคำนวณมาประกอบกันเพื่อให้เกิดค่าใหม่ ข้อมูลชนิดนี้จะต้องขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย = เสมอ และค่าของผลลัพธ์จะแปรเปลี่ยนไปตามค่าที่เกี่ยวข้อง
· 19. เติมข้อมูลอัตโนมัติ การเติมข้อมูลอัตโนมัติ หรือ Auto Fill เป็นความสามารถพิเศษของ Microsoft Excel ในการ ป้อนข้อมูลที่มักจะใช้บ่อยๆ และเป็นข้อมูลที่ต้องเรียงลำดับ เช่น เดือน , วัน , พ . ศ ., ตัวเลข 1. ป้อนข้อมูลใน เซลล์เริ่มต้น 3. ลากเมาส์ จะปรากฏ ข้อมูลเติมอัตโนมัติ 2. นำเมาส์มาชี้ ที่จุดเล็กๆ มุมล่าง ด้านขวาของเซลล์
· 20. เติมข้อมูลอัตโนมัติ ทำไหมตัวเลข ถึงไม่เพิ่มเป็น 2, 3 … วิธีที่ 1. ถ้าไม่นำตัวเลขไปคำนวณ ให้ใส่ เ ครื่องหมาย เ ขี้ยวเดียว ( ‘ ) นำหน้าตัวเลข วิธีที่ 2. พิมพ์ตัวเลขค่าเริ่มต้นในเซลล์แรก และพิมพ์ ตัวเลขค่าที่สองในเซลล์ถัดไป และทำแถบสี คลุมทั้งสองเซลล์ จากนั้นจึงทำการเติมข้อมูล โดยลากเมาส์จากจุด Auto Fill
· 21. การแก้ไขข้อมูล กดปุ่ม เพื่อเข้าสู่โหมดแก้ไขข้อมูล โหมดแก้ไข สังเกตจากบรรทัดนี้
· 22. การลบข้อมูล 1. เลือกเซลล์ที่ต้องการลบ 2. กดปุ่ม เพื่อลบข้อมูล มีแถบสีคลุมลักษณะนี้ ถ้ากดปุ่ม จะหายไป ทั้งหมด
· 23. สูตร (Formula) สูตรใน Excel จะเขียนในบรรทัดเดียว เช่น 2 4 จะเขียนเป็น 2 ^4 มีลำดับความสำคัญของเครื่องหมาย โดยเราจะใช้ฟังก์ชั่นÖไม่สามารถใส่สัญลักษณ์ทาง คณิตศาสตร์ที่ๆ ซับซ้อนได้ เช่น SQRT ขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย =
· 24. 1. เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ 2. เครื่องหมายในการเชื่อมข้อความ 3 . เครื่องหมายในการเปรียบเทียบ 4 . เครื่องหมายในการอ้างอิง เครื่องหมายในการคำนวณ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
· 25. + บวก - ลบ * คูณ / หาร % เปอร์เซ็นต์ ^ ยกกำลัง 1. เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์
· 26. สมการที่อยู่ในวงเล็บ ( ) เปอร์เซ็นต์ และยกกำลัง % ^ คูณและหาร * และ / บวกและลบ + และ – เครื่องหมายเปรียบเทียบ <,<=,>,>= ลำดับในการคำนวณ
· 27. ตัวอย่าง จงแปลงนิพจน์ทางคณิตศาสตร์ให้เป็นสูตรใน โปรแกรม Microsoft Excel b 2 ab – 2 2. 2 x + 3y + 15 = (b ^ 2) / ((a * b) - 2) = 2 * x + 3 * y + 15
· 28. & เชื่อมข้อความ ตัวอย่าง =“Microsoft” & A1 ถ้า A1 เก็บค่า “ Excel” จะได้ผลลัพธ์เป็น Microsoft Excel 2 . เครื่องหมายในการเชื่อมข้อความ
· 29. = เท่ากับ <> ไม่เท่ากับ > มากกว่า < น้อยกว่า >= มากกว่าหรือเท่ากับ <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ 3 . เครื่องหมายในการเปรียบเทียบ
· 30. แบ่งออกเป็น 3.1 : (colon) 3.2 เว้นวรรค 3.3 , (comma) 4 . เครื่องหมายในการอ้างอิง
· 31. บอกช่วงของข้อมูล เช่น A1:A5 หมายถึง เซลล์ A1, A2, A3, A4, A5 A1:B2 หมายถึง เซลล์ A1, A2, B1, B2 4 .1 เครื่องหมาย : (colon)
· 32. ตัวอย่างที่ 1 การคำนวณโดยใช้เครื่องหมาย : ผลลัพธ์ที่ได้
· 33. เลือกเฉพาะข้อมูลที่ซ้ำกัน ( intersection) เช่น A1:B2 B1:B3 A1:B2 หมายถึง เซลล์ A1, A2, B1, B2 B1:B3 หมายถึง เซลล์ B1, B2 , B3 เลือกเฉพาะเซลล์ B1, B2 4 .2 เครื่องหมาย เว้นวรรค
· 34. ตัวอย่างการคำนวณโดยการเว้นวรรค ผลลัพธ์ที่ได้
· 35. เลือกข้อมูลทั้งหมด ( Union) เช่น A1,B2 หมายถึง เซลล์ A1 และ B2 A1:A3, B1:B3 หมายถึง เซลล์ A1, A2,A3, B1,B2,B3 4 .2 เครื่องหมาย , (comma)
· 36. ตัวอย่าง การคำนวณโดยใช้เครื่องหมาย , ผลลัพธ์ที่ได้
· 37. การคำนวณใน Microsoft Excel การคำนวณโดยใช้สูตร ( Formula) การคำนวณโดยใช้ฟังก์ชั่น ( Function)
· 38. การคำนวณโดยใช้สูตร สูตร เกิดจากการนำเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ ค่าตัวเลข ตำแหน่งของเซลล์ที่เก็บข้อมูล มารวมกัน แล้วเกิดค่าขึ้นใหม่ โดยสูตรจะอยู่ในรูปสมการ เช่น = 7+3 = A1+A2
· 39. การอ้างอิงแบบสัมพันธ์ ( Relative) การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ ( Absolute) การอ้างอิงเซลล์ = A1+A2
· 40. เป็นการใส่ชื่อของเซลล์ลงไปในสูตรเท่านั้น เช่น = A1+A2 ในการคัดลอกและวางสูตร แบบสัมพันธ์ไปไว้ที่เซลล์อื่นโปรแกรม จะแก้ไขตำแหน่งของเซลล์ในสูตรให้สอดคล้อง กับตำแหน่งใหม่ที่จัดวาง 1. การอ้างอิงแบบสัมพันธ์
· 41. ตัวอย่างการอ้างอิงแบบสัมพันธ์ เมื่อ Copy แล้ว Paste
· 42. เป็นการอ้างอิงที่ระบุตำแหน่งเซลล์ไว้ตายตัว เมื่อคัดลอกเซลล์ที่อ้างอิงแบบสัมบูรณ์ไปวางที่เซลล์อื่น โปรแกรมจะไม่เปลี่ยนการอ้างอิงตำแหน่งเซลล์สามารถอ้างอิงได้ ทั้งแถวและคอลัมน์ โดยพิมพ์ $ นำหน้า 2. การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์
· 43. การใส่เครื่องหมาย $ ทั้งหน้าคอลัมน์และแถว เป็นการล็อคตำแหน่งของเซลล์ทั้งคอลัมน์และ แถวไม่ว่าจะคัดลอกสูตรไว้ที่เซลล์ใด สูตรก็จะ ไม่เปลี่ยนแปลงตำแหน่งของเซลล์ เช่น = $A$1+10 แบ่งออกเป็น 3 แบบดังนี้ รูปแบบการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์
· 44. การใส่เครื่องหมาย $ หน้าคอลัมน์ เป็นการล็อกตำแหน่งของเซลล์เฉพาะคอลัมน์ ถ้าคัดลอกสูตรไว้ที่เซลล์อื่น ตำแหน่งของเซลล์ที่ถูกวางจะเปลี่ยนเฉพาะค่าแถว แต่คอลัมน์จะคงเดิม เช่น = $A1+10 การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ ( ต่อ )
· 45. การใส่เครื่องหมาย $ หน้าแถว เป็นการล็อคตำแหน่งของเซลล์เฉพาะแถว ถ้าคัดลอกสูตรไว้ที่เซลล์อื่น ตำแหน่งของเซลล์ที่ถูกวางจะเปลี่ยนเฉพาะค่าคอลัมน์ แต่แถวจะคงเดิม เช่น = A$1+10 การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ ( ต่อ )
· 46. ตัวอย่างการอ้างอิงเซลล์แบบสมบูรณ์ แบบที่ 1 = $A$1 * 10 แบบที่ 3 = B$1*10 B$1 * 10 แบบที่ 2 = $A1 * 10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น